ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาพระนครศรีอยุธยา
ความรู้ทั่วไปบทความสุขภาพ

Niacinamide ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? รวม 10 ประโยชน์ของสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide

(นายฐาปนิก  ผาสุกะกุล)
นักวิชาการวิทยาศาสตร์ศึกษา

ในบรรดาปัญหาผิวต่างๆ ที่หลายคนกังวลกัน สิวและพื้นผิวที่ไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอน่าจะเป็นประเด็นท็อปๆ ของลิสต์ที่ทำสาวๆ หลายคนปวดหัว อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน อักเสบ มีรอยแดง หรือรูขุมขนไม่กระชับ ปัญหาผิวเหล่านี้สามารถรักษาและฟื้นฟูได้ด้วยสกินแคร์ และส่วนผสมในสกินแคร์ที่ทีมบิวตี้อยากให้สาวๆ โฟกัสกันในวันนี้ก็คือเจ้า Niacinamide ซึ่งถึงตอนนี้ทีมโว้กบิวตี้เชื่อว่าสาวๆ ที่เป็นสกินแคร์จังกี้หลายคนอาจจะคุ้นชื่อและทราบประโยชน์คร่าวๆ ของสารบำรุงผิวตัวนี้ว่าช่วยในเรื่องคุมความมันและลดการเกิดสิว กันบ้างอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม Niacinamide ไม่ได้เพียงแค่ช่วยรักษาผิวที่มีปัญหาสิว แต่ยังเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวในด้านอื่นๆ ด้วย วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก Niacinamide กันเพิ่มขึ้น พร้อมด้วย 10 ประโยชน์ที่ส่วนผสมยอดฮิตตัวนี้มีต่อผิวหน้าของเรา

Niacinamide คือ?

Niacinamide หรือที่รู้จักกันในชื่อที่ออกเสียงง่ายขึ้นอย่าง วิตามินบี 3 ซึ่งอยู่ในกลุ่มวิตามินบีคอมเพล็กซ์ (B-Complex) หรือที่เรียกว่า Niacin (Nicotinic acid) วิตามินบี 3 หรือ Niacinamide นั้นเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวของเราที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างครอบคลุม โดยสามารถไล่ตั้งแต่ช่วยลดริ้วรอย
และรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว ช่วยลดอาการแดงและอาการระคายเคืองบนผิว ไปจนถึงช่วยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (ceramide) ที่ช่วยให้ผิวกระชับและชุ่มชื้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังเป็นส่วนผสมที่ช่วยกระชับรูขุมขนและคุมความมันบนผิว จึงเหมาะเป็นพิเศษสำหรับคนที่มีผิวมัน อย่างไรก็ตามเป็นส่วนผสมที่เข้าได้กับทุกสภาพผิว เนื่องจาก  Niacin เป็นวิตามินประเภทที่ละลายน้ำได้ สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ที่เราจะใช้กันจึงมาในรูปแบบของเซรั่มที่มีน้ำเป็นเบสซะส่วนใหญ่  และเมื่อเทียบกัน
กับสารประกอบที่มีฤทธิ์เป็นกรดที่นิยมใช้ในสกินแคร์ในปัจจุบันอย่างเช่น วิตามินซี หรือ AHA และ BHA เป็นต้น Niacinamide จะอ่อนโยนต่อผิวกว่าเพื่อนเพราะเป็นสารออกฤทธิ์ (Active Ingredient) ในสกินแคร์
ที่ปราศจากกรดและการระคายเคือง

Niacinamide ทำงานอย่างไร?

สาวๆ ทราบหรือไม่ว่าร่างกายของเราสามารถผลิต Niacinamide ได้ โดยทุกครั้งที่เราทานอาหารที่มีส่วนผสมของสาร niacin หรือวิตามินบี 3 สูง (อย่างเช่น อกไก่ อโวคาโด้ และ เห็ดเป็นต้น) ร่างกายของเราจะแปลง Niacin เป็นสารออกฤทธิ์ Niacinamide ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญต่อระบบเผาผลาญ, การทำงานของระบบประสาท และการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งล้วนแล้วเป็นส่วนสำคัญของการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายของเรา รวมถึงการทำงานของเซลล์ผิว

10 ประโยชน์ของ Niacinamide

1.ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ใครที่ผิวมันและไม่ถูกกับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซี ก็ไม่ต้องกังวลว่าผิวจะยอมแพ้ให้กับอนุมูลอิสระที่ส่วนใหญ่มาจากมลภาวะและแสงแดด รวมถึงไลฟ์สไตล์ที่ไม่ค่อยเฮลตี้ที่ส่งผลให้ผิวดูอิดโรย เพราะสาวๆ ที่มีความกังวลเรื่องผิวมันและผิวผสมทั้งหลายสามารถเปลี่ยนมาปกป้องผิวด้วยสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของNiacinamide ในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระบนผิวของเราได้ เนื่องจากมีความบางเบาและซึมไว จึงถือว่าเป็นเกราะป้องกันที่ช่วยบูสพลังการต้านอนุมูลอิสระแบบที่ไม่ทิ้งความมันเยิ้มไว้บนผิวระหว่างวัน

2.ช่วยลดเลือนรอยสิวและรอยแผลเป็น นอกจากช่วยลดการเกิดสิวแล้ว Niacinamide ยังสามารถช่วยให้รอยสิวแลดูจางลง รวมถึงช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ

3.ช่วยลดเลือนริ้วรอย จากผลวิจัยพบว่าสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 4 เปอร์เซ็นต์ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ โดย Niacinamide จะเข้าไปบูสการสร้างคอลลาเจนซึ่งจะช่วยให้ผิวเต้งตึงกระชับขึ้น

4.ช่วยรักษาสิว เนื่องจาก Niacinamide มีสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบและลดเชื้อแบคทีเรียบนผิว สกินแคร์ที่มีส่วนผสมนี้จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาสิว

5.ปรับสมดุลการสร้างน้ำมันในผิว Niacinamide จะช่วยบาลานซ์การผลิตน้ำมันในผิว โดยจะช่วยให้การผลิตน้ำมันในผิวสมดุลขึ้น ซึ่งต่างจากส่วนผสมคุมความมันบนผิวอื่นๆ ที่มักจะทำหน้าที่แค่รอดูดซับน้ำมันที่โผล่ออกมาจากผิว

6.ช่วยกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ใครที่มีเรื่องของรูขุมขนกว้างรบกวนใจอยู่ แนะนำว่าให้ลองใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ดู เนื่องจากเป็นส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมัน และเมื่อการผลิตน้ำมันในผิวสมดุลมากขึ้น รวมถึงคราบน้ำมันและสิ่งสกปรกไม่สามารถเข้าไปแออัดกันในรูขุมขนได้ ก็จะช่วยให้รูขุมขนแคบลงและกระชับขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียน

7.ช่วยลดอาการแดงบนผิว นอกจากเป็นส่วนผสมที่เหมาะกับคนที่มีผิวมันแล้ว ยังเหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบาง มีรอยแดงได้ง่ายด้วย โดยจะช่วยปลอบประโลมและลดอาการแดงของผิว รวมถึงสามารถช่วยฟื้นฟูผิวหนังที่มีปัญหารุนแรงอย่างเช่น โรคโรซาเชีย (Rosacea) หรือผิวหนังอักเสบเรื้อรัง

8.ช่วยให้ผิวชั้นบนสุดสตรองขึ้น นอกจาก Niacinamide จะช่วยมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของเราดูสุขภาพดีจากนอกแล้ว ความชุ่มชื้นในผิวยังช่วยให้ชั้นผิวของเราแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

9.ช่วยเติมน้ำให้ผิว เนื่องจาก Niacinamide มีสรรพคุณช่วยบูสเซราไมด์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น จึงสามารถช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งและขาดน้ำได้

10.ช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของรังสี UV หากเป็นสาวสายเอ็คทีฟที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งตลอดเวลา บอกเลยว่ากันแดดอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะควรมีสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide ไว้ช่วยฟื้นฟูผิวด้วย โดยผลวิจัยพบว่า Niacinamide สามารถช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวของเราหลังโดนแสงยูวีทำร้าย

แหล่งอ้างอิง : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24798949

https://theskincareedit.com/2018/12/13/niacinamide-skin-benefits

views 2

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *